• HEALTH REPORT Edit

    Edit
  • Edit
  • ฮอร์โมนบางชนิดในนมผึ้งช่วยทำให้ผิวอ่อนเยาว์ Edit

    Edit
    • ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนในมนุษย์มีผลโดยตรงต่อความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ เช่นผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาผิวและริ้วรอยตามวัยได้รวดเร็วขึ้นเนื่องจากความเข้มข้นของ เอสโทรเจนที่สำคัญในผู้หญิงคือ เอสตราไดออลในเลือดมีปริมาณที่ลดลงอย่างรวดเร็ว นักวิจัยชาวเกาหลีจึงทำการศึกษาในสัตว์ทดลองและแนะนำว่า รอยัลเจลลีหรือนมผึ้งเป็นความหวังที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

    edit

  • Edit
    • รอยัลเจลลีมีประโยชน์ในการเสริมสร้างและปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งสาเหตุการทำงานอาจจะยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ส่วนประกอบที่สำคัญเช่น กรดไขมันเซบาคิก (sebacic) [สูตรโครงสร้างแรกแสดงดังภาพ], กรด3.10-ดีไฮดร็อกซี่ดีซีโนอิค (3.10-dihydroxydecanoic) และจำพวก เท็นไฮดร็อกซี่ดีทูดีซีโนอิค (10-hydroxy-2-decenoic) [สูตรโครงสร้างที่สองดังที่แสดงด้านล่าง ]
      กรดไขมันในนมผึ้งสามารถทำงานเสมือนน้ำมันหล่อลื่นฮอร์โมน ตามที่มีการตีพิมพ์บทความการวิจัยในวารสาร PloS ในปี 2010 ได้ระบุว่า กรดไขมันหลายชนิดในรอยัลเจลลีสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานของเอสตราไดออลต่ออวัยวะหรือส่วนที่เป็นตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจน [PLoS One. 2010 ธ.ค. 22; 5 (12): e15594.] ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่ากรดไขมันชนิดเดียวกันนี้สามารถส่งผลต่ออวัยวะหรือส่วนที่เป็นตัวรับฮอร์โมนอื่นๆได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นตัวรับฮอร์โมนแอนโดรเจน
      ในปี 2011 เกาหลีได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่ทดสอบแล้วว่ารอยัลเจลลีสามารถช่วยชะลอริ้วรอยผิวจากการสัมผัสกับรังสียูวี [J Med Food ก.ย. 2011; 14 (9):. 899-906] การศึกษาดังกล่าวได้พบว่ารอยัลเยลลีช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในเซลล์ผิว โดยทำการทดลองในสัตว์ และได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในเกาหลีในปีต่อมา ในการทดลองจะให้อาหารที่มีส่วนผสมของรอยัลเจลลีในสัดส่วน รอยัลเจลลี10 กรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัมในหนูเพศเมียที่หยุดผลิตเอสตราไดออล ทั้งนี้นักวิจัยได้ใช้รอยัลเจลลีจาก 2 แหล่ง คือจาก Pocheon [OP] และ Cheorwon [OC] ในเกาหลี การวิเคราะห์นั้นแสดงให้เห็นว่ารอยัลเจลลีทั้ง 2 ชนิด ประกอบด้วยกรดไขมันในปริมาณที่สูงที่สุดคือ เท็นไฮดร็อกซี่ดีทูดีซีโนอิค (10-hydroxy-2-decenoic หรือ 10H2DA) ส่วนหนูทดลองอีก 2 กลุ่มได้รับอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของรอยัลเจลลี หนูกลุ่มหนึ่งยังสามารถที่จะผลิตฮอร์โมนเอสตราไดออล [SHAM] ได้ แต่อีกกลุ่มหนึ่งไม่สามารถที่จะผลิตได้ [OVX].
      นักวิจัยได้ข้อสังเกตว่าการให้อาหารที่มีส่วนผสมของรอยัลเจลลีสามารถป้องกันการลดปริมาณของโปรตีนและคอลลาเจนในผิวซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของระดับฮอร์โมนเอสตราไดออล และการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่ารอยัลเจลลีสามารถทำให้ร่างกายของหนูทดลองสามารถผลิตโปรคอลลาเจน ชนิดที่ 1 ถึงแม้ว่าจะไม่มีเอสตราไดออลอยู่ก็ตาม

      เมื่อชาวเกาหลีได้ทำการสืบค้นการศึกษาชิ้นอื่น เกี่ยวกับกรดไขมันในรอยัลเจลลี่ที่สามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนก็พบการศึกษาทดลองในญี่ปุ่น [Biosci Biotechnol Biochem. 2004 เม.ย.; 68 (4): 767-73.] การศึกษาทดลองดังกล่าวพบว่า เท็นไฮดร็อกซี่ดีทูดีซีโนอิค (10-hydroxy-2-decenoic หรือ 10H2DA) สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน โดยช่วย กระตุ้นและฟื้นฟูกระบวนการเปลี่ยนสภาพการเจริญเติบโตของเซลล์เล็กๆ (ปัจจัยการเจริญเติบโตเบต้า 1 -TGF-beta-1) ตามปริมาณของรอยัลเจลลีที่นักวิจัยชาวเกาหลีได้ให้หนูทดลองกิน ซึ่งหากเป็นมนุษย์หรือในผู้ใหญ่ปริมาณที่แนะนำคือ 6-8 กรัมต่อวัน การวิจัยข้างต้นนี้ได้รับทุนสนับสนุนการค้นคว้าทดลองจากรัฐบาลเกาหลี และปราศจากการสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมอาหารเสริม

      Source: J Med Food. 2012 Jun; 15 (6): 568-75.

    edit

Information

ปิดหน้าต่าง